วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หอไอเฟล

 การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน ( 0026008 ) กลุ่มเรียนที่ 3

      น.ส.พนิดา กองจันทร์ดี 56010123517 สาขา BE ระบบ พิเศษ.

หอไอเฟล




หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย
หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง  ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 81 ชั้น
เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในกรุงปารีส และหากไม่นับรวมเสากระจายคลื่น หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดอันดับสองในฝรั่งเศส รองจากสะพานมีโย






ประเพณีการดื่มชาของชาวอังกฤษ

 การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน ( 0026008 ) กลุ่มเรียนที่ 3

      น.ส.พนิดา กองจันทร์ดี 56010123517 สาขา BE ระบบ พิเศษ.

ประเพณีการดื่มชาของชาวอังกฤษ


ประเพณีการดื่มชาของอังกฤษ ชาวอังกฤษเป็นชาติที่ดื่มชาเป็นลำดับสองของโลกเมื่อเปรียบกับอัตราต่อคน ชาวอังกฤษแต่ละคนดื่มชาคนละประมาณ 2.1 กิโลกรัมต่อปี ความนิยมในการดื่มชามีมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่ออินเดียเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษ และอังกฤษมีความต้องการที่จะควบคุมการผลิตชาในอนุทวีปอินเดีย แต่ผู้ที่นำประเพณีการดื่มชาเข้ามาในอังกฤษเป็นคนแรกก็คือแคทเธอรีนแห่งบราแกนซา สมเด็จพระราชินีในสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษในราวระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1660 ถึง 1670 แต่ในระยะแรกก็เป็นประเพณีสำหรับชนชั้นสูงเท่านั้นที่ไม่ได้แพร่หลายในบรรดาประชากรทั่วไปเพราะยังเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย จนต่อมาเมื่อราคาชาถูกลง เมื่อประเพณีนี้เผยแพร่ทั่วไปในสหราชอาณาจักรก็เริ่มมีการจัดสวนชา (Tea garden) ที่เป็นสถานที่ดื่มชาและเดินเล่น หรือการจัดการเต้นรำชา (Tea dance) ที่อาจจะเป็นการเต้นรำตอนบ่ายหรือพลบค่ำ ที่อาจจะรวมทั้งการดูดอกไม้ไฟ หรือมีการเลี้ยงอาหารค่ำด้วย และจบลงด้วยการดื่มชา สวนชาเสื่อมความนิยมลงหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง แต่การเต้นรำก็ยังพบว่ามีการจัดกันอยู่บ้าง




วิธีดื่มชาของอังกฤษ


การดื่มชาในอังกฤษมักจะเป็นชาดำที่เสิร์ฟกับนมและบางครั้งก็น้ำตาลด้วย ชาแก่ที่เสิร์ฟกับนมและน้ำตาลจำนวนมากในถ้วยใหญ่เหมือนกระบอกที่เรียกว่า “mug” มักจะเรียกกันว่า “ชาคนงาน” (Builders tea) โดยทั่วไปแล้วการดื่มชาในอังกฤษจะไม่ใช่วัฒนธรรมชั้นสูงที่ละเอียดอ่อนอย่างที่เข้าใจกันทั่วโลก แต่เป็นเพียงกิจวัตรประจำวันเช่นเดียวกับการดื่มกาแฟของชาติอื่น — ตามปกติแล้วชาวอังกฤษก็จะดื่มชากันวันละอาจจะถึงห้าหรือหกถ้วย (หรือ “หมัก”) แต่ก็มิได้หมายความว่าชาวอังกฤษจะไม่มีประเพณีการดื่มชากันอย่างเป็นทางการหรือในโอกาสพิเศษ สำหรับชนชั้นที่ทำมาหากินมีอาชีพกันทั่วไปการพักดื่มชาก็เป็นส่วนสำคัญประจำวัน โดยทั่วไปแล้วนายจ้างก็มักจะอนุญาตให้มีการพักดื่มชาสายครั้งหนึ่งและบ่ายอีกครั้งหนึ่ง




การดื่มชาของชาวอังกฤษในปัจจุบัน

การสำรวจของบริษัทอินฟอร์มา (Informa) ระบุว่าจำนวนการดื่มชาตามปกติในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มในทางที่ลดลง แต่การขายกาแฟในช่วงเดียวกันก็มิได้เพิ่มขึ้น ชาวอังกฤษหันไปดื่มสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าเช่นน้ำผลไม้ หรือชาที่ทำจากดอกไม้หรือผลไม้แทนที่ ที่แสดงให้เห็นจากสถิติของการดื่มเครื่องดื่มที่ว่าสูงขึ้นถึงอัตราร้อยละ 50 ระหว่างปี ค.ศ. 1997 จนถึงปี ค.ศ. 2002 นอกจากนั้นสิ่งที่น่าสนใจคือสถิติของการขายชาและกาแฟที่ปราศจากคาเฟอีนในช่วงเดียวกันก็ลดลงมากยิ่งกว่าชาหรือกาแฟปกติ



ประเพณีทำชาของชาวอังกฤษโดยทั่วไป

ในปัจจุบันการดื่มชาก็มักจะเป็นเพียงการเอาถุงชาใส่ "หมัก" และราดด้วยน้ำเดือด หรือถ้าซื้อชาหนึ่งแก้วในร้านอาหารประเภทเซิร์ฟตัวเองผู้ซื้อก็จะได้ถ้วยชาเปล่ากับถุงชาหนึ่งถุงซึ่งไปเติมน้ำร้อนจากหม้อ และเติมนมและน้ำตาลเอาตามใจชอบ แต่ถ้าเป็นโอกาสการดื่มชาที่เป็นทางการก็จะมีการใช้ถ้วยชาและจานรองแทนที่จะเป็น “หมัก” อย่างที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน หรือถ้าใช้ “หมัก” ก็อาจจเป็นขนาดที่ย่อมหน่อย การทำชาโดยทั่วไปจะประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้:
  1. ต้มน้ำให้เดือดและเทลงในกาชาเล็กน้อย
  2. หมุนกาชาให้น้ำร้อนกลั้วกาชาให้ทั่วเพื่ออุ่นกา แล้วเทน้ำทิ้ง
  3. ใส่ใบชา (ปัจจุบันใช้ถุงชาเป็นส่วนใหญ่) ลงไปในกาชา กาชาขนาดกลางก็มักจะใช้ถุงชาราวสองถุงหรือสามถ้าชอบรสแก่ ขณะเดียวกันก็ต้มน้ำร้อนต่อให้เดือด
  4. เติมน้ำร้อนลงในกาชา และคลุมกาชาด้วยถุงที่บุด้วยฉนวนที่เรียกว่า “tea cosy” เพื่อรักษาความร้อนของกาชา ทิ้งชาไว้ในกาสักครู่เพื่อให้ชาออกรสและได้ที่
  5. เทนมในถ้วยชาที่จะเสิร์ฟหรืออาจจะรอให้ผู้ดื่มเติมเอง ถ้าเจ้าของบ้านเป็นผู้เติมให้ก็จะถามก่อนว่าจะดื่มชาอย่างไร ผู้ถูกถามก็อาจจะตอบว่า “กับนมและน้ำตาล” หรือ “กับนม” หรือ “ไม่ใส่อะไร”
  6. เทชาลงถ้วย ถ้าเป็นใบชาก็อาจจะเทผ่านที่กรองเล็กๆ
  7. ถ้าเสิร์ฟเป็นชาดำ ผู้ดื่มก็จะเติมนมและ/หรือน้ำตาลเองตามใจชอบ
  8. เติมใบชาในกา และน้ำร้อนเพิ่มสำหรับเสิร์ฟถ้วยต่อไป
การเติมนมก่อนหรือหลังเทชาจึงดีก็เป็นเรื่องที่โต้แย้งกันมานานที่มาจากพื้นฐานที่ว่าเวลาที่เติมมีผลทำให้ชาเปลี่ยนรส แต่ก็ยังไม่เป็นทีตกลงกันได้
ข้อที่น่าสังเกตคือชาจะต้มทิ้งไว้เหมือนกาแฟไม่ได้ ฉะนั้นตามร้านอาหารจึงไม่มีหม้อชาตั้งไว้ให้เทเหมือนหม้อกาแฟแต่จะมีหม้อน้ำร้อนให้เทในถ้วยชาแทนที่ เพราะเมื่อชาออกรสแล้วก็ต้องดื่มทันที ถ้าใส่น้ำร้อนทิ้งไว้นานก็จะออกเปรี้ยวทำให้เสียรส
การดื่มชากับนมและน้ำตาลชาวอเมริกันถือว่าเป็นของแปลกเพราะการดื่มชาในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่โดยทั่วไปจะเป็นการดื่มชาดำ




            http://th.wikipedia.org





วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัดบทที่ 4วิชา การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน ( 0026008 ) กลุ่มเรียนที่ 3


แบบฝึกหัดบทที่ 4วิชา การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน ( 0026008 ) กลุ่มเรียนที่ 3

                                                      น.ส.พนิดา กองจันทร์ดี 56010123517 สาขา BE ระบบ พิเศษ.
แบบฝึกหัดบทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ
จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. ให้นิสิตยกตัวอย่าง อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด

    1.1 การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
          -  CD DVD
          -  Hard disk
          -  USB
    1.2 การแสดงผล
          -  Monitor
          -  Projector
          -  Printer
    1.3 การประมวลผล
          -  Software
          -  Hardware
          -  OS
    1.4 การสื่อสารและเครือข่าย
          -  Internet
          - Chat
          -  E-Book

2. ให้นิสิต นำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้าย ที่มีความสัมพันธ์กัน

         ซอฟต์แวร์ประยุกต์    
 8    (โปรแกรมระบบห้องสมุด จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท..)

         Information Technology  
 ( เทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับ   สารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้อง และความรวดเร็วในการนำไปใช้)

         คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล 
 1 (ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล)

         เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย  
 6 (เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์  เทคโนโลยี การสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีอื่นๆที่เกี่ยวข้อง)
     
        ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่นต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 
10 (ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ)

        ซอฟต์แวร์ระบบ 
7 (โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์)

        การนำเสนอบทเรียนในรูปแบบมัลติมีเดีย ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ตามระดับความสามารถ 

    9 (CAI)

       EDI 
 5 (การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย)

       การสื่อสารโทรคมนาคม 
 4 (มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน คือ Sender-Medium และ Decoder

       บริการชำระภาษีออนไลน์ 
 2 (e-Revenue) 

แบบฝึกหัด บทที่ 3 การรู้สารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน ( 0026008 ) กลุ่มเรียนที่ 3



                                                           
                       แบบฝึกหัดบทที่ 3 วิชา การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน ( 0026008 ) กลุ่มเรียนที่ 3

                                                      น.ส.พนิดา กองจันทร์ดี 56010123517 สาขา BE ระบบ พืเศษ.


1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สารสนเทศ
   ก
ความสามารถในการกลั่นกลอง และประเมินค่าสารสนเทศที่หามาได้
   ข
ความสามารถในการตัดสินใจใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ
   ค
. ความสามารถของบุคคลในการสืบค้นและพัฒนาสารสนเทศ
 
  ง. ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิณและใช้งานสารสนเทศ

2. จากระบวนการของการรู้สารสนเทศ ทั้ง ประการ ประการไหนสำคัญที่สุด
   ก
. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
   ข
ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
   ค
ความสามารถในการประมวลผลสารสนเทศ
 
  ง. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
   ก
สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
   ข
สามารถใช้สารสนเทศในการดำเนินชีวิต
   ค
. ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกม
   ง
ใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาสารสนเทศ

4. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
   ก
โลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเน้นวัตถุนิยมมากชึ้น
   ข
ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
 
  ค. สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
  ง
ช่วยบุคคลเป็นผู้มีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
   
1. ความสามารถในการประมวลสารสนเทศ
   
2. ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
  
3. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสนเทศอย่างมีประสิทิภาพ
  
4. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
  
5. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
. 1-2-3-4-5       . 2-4-5-3-1        . 5-4-1-2-3         . 4-3-5-1-2

แบบฝึกหัดบทที่ 1 วิชา การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน ( 0026008 ) กลุ่มเรียนที่ 3



แบบฝึกหัดบทที่ 1 วิชา การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน ( 0026008 ) กลุ่มเรียนที่ 3

 น.ส.พนิดา กองจันทร์ดี 56010123517 สาขา BE ระบบ พืเศษ.

1. ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่ ฯลฯ โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผลซึ่งข้อมูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชือนักเรียน เพศ อายุ เป็นต้น          
2. ข้อมูลปฐมภูมิ คือ ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่ได้จากการเก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูลโดยตรง

ตัวอย่าง  เช่น ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ การสังเกต การทดลอง การทดสอบ ข้อมูลการเข้าชั้นเรียนของนักเรียนแต่ละภาคการศึกษา เป็นต้น

3. ข้อมูลทุติยภูมิ คือ ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่ได้จากการนำข้อมูลที่ผู้อื่นรวบรวมไว้ไว้อย่างเป็นระบบ มาใช้งานโดยไม่ต้องลงมือเก็บรวบรวมเอง
ตัวอย่าง เช่น  สถิติจำนวนประชากรที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยรวบรวมและตีพิมพ์เผยแพร่ ซึ่งสามารถนำเอาไปประมวลผลต่อได้ เป็นต้น

4.สารสนเทศ หมายถึง  ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว อาจใช้วิธีง่าย ๆ เช่น หาค่าเฉลี่ยหรือใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น การวิจัยดำเนินงาน เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไปให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจให้คำตอบปัญหาต่าง ๆ ได้ สารสนเทศประกอบด้วยข้อมูลเอกสาร เสียง หรือรูปภาพต่าง ๆ แต่จัดเนื้อเรื่องให้อยู่ในรูปที่มีความหมาย  สารสนเทศไม่ใช่จำกัดเฉพาะเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
 

5. จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ
- การจำเเนกประเภทของสารสนเทศจำเเนกออกตามแหล่งสารสนเทศเเละตามที่สื่อจัดเก็บ ดังนี้
1) สารสนเทศที่จำเเนกตามเเหล่งสารสนเทศ เป็นการจำเเนกสารสนเทศตามการรวบรวมหรือจัดกระทำกับสารสนเทศ จำเเนกได้ดังนี้คือ
- เเหล่งปฐมภูมิ คือ สารสนเทศที่ได้มาจากต้นเเหล่งโดยตรง  เช่น ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ การสังเกต การทดลอง การทดสอบ ข้อมูลการเข้าชั้นเรียนของนักเรียนแต่ละภาคการศึกษา เป็นต้น
- เเหล่งทุติยภูมิ คือ สารสนเทศที่มีการรวบรวม เรียบเรียงขึ้นมาใหม่จากแหล่งสารสนเทศปฐมภูมิ เช่น  สถิติจำนวนประชากรที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยรวบรวมและตีพิมพ์เผยแพร่ ซึ่งสามารถนำเอาไปประมวลผลต่อได้ เป็นต้น
- เเหล่งตติยภูมิ คือ สารสนเทศที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการค้นหาสารสนเทศจากเเหล่งปฐมภูมิเเละทุติยภูมิ จะไม่ได้ให้เนื้อหาโดยตรง เเต่จะมีประโยชน์ในการค้นหาสารสนเทศที่ให้ความรู้เฉพาะสาขาวิชา

6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อความรูปภาพเสียง คือ ข้อมุล
7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น ข้อมูลทุติยภูมิ
8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนเเต่ละคนเป็น ข้อมูลปฐมภูมิ
9. ผลของการลงทะเบียนเป็น ข้อมูลทุติยภูมิ
10. กราฟแสดงจำนวนสถิติจำนวนนิสิตในห้องเรียน วิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน Section วันอังคาร เป็น ข้อมูลปฐมภูมิ

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด 2 การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่ 3





การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่ 3

1) ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโรยีที่ให้บริการต่างๆตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละสามรายการ


1.1) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา

1.2) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน

1.3) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสารมวลชน

1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม

1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสาเทศในวิชาชีพทางการแพทย์

1.6 การประยุกษ์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทหารตำรวจ

1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม

1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพเกษตรกรรม

1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ


2) มหาวิยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่านมีอะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย 3 อย่าง
                                                           1 ไวไฟฟรี 
                                                           2 คอมในร้านค้าของมหาลัย U-Shop
                                                           3 สำนักวิทยบริการ 

3 )ข้อ 2 จงวิเคาระห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง

ไวไฟฟรี - ช่วยในการสืบค้นข้อมูลนอกตำราอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย สามารถใช้

สื่อสารโต้ตอบในการดำเนินการทางการศึกษาในกรณีที่ไม่สามารถมาพบกันได้ในทันที อีกทั้งยังช่วยใน

การเช็คข้อมูลทางการศึกษาที่เป็นกรณีเร่งด่วน

คอมที่ยูช้อป - ช่วยในการติดต่อสื่อสารในระยะ

เวลาสั้นๆในกรณีเร่งด่วน ex. ตรวจสอบข้อมูลของงานก่อนนำเสนอ

สำนักวิทยบริการ - เป็นสถานที่ที่มีหนังสือตำราเรียนจำนวนมาก สามารถสืบค้นได้อย่างสะดวกและ

รวดเร็ว และยังสามารถใช่เป็นสถานที่อ่านหนังสือช่วงสอบได้อีกด้วย อีกทั้งมีอุปกรณ์ต่างๆ ex. โต๊ะอ่าน

หนังสือ วิดิทัศน์ เป็นต้น